ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสม (เช่น แว่นตานิรภัย ถุงมือหนัง เมื่อจัดการกับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด เป็นต้น)

การถอด:

1. เตรียมรถเพื่อการถอดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ:
   1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถยนต์เข้าเกียร์จอดอยู่
   2. ลดหน้าต่างทั้งหมดลง
   3. เปิดฝากระโปรงหน้า
   4. เปิดประตูทิ้งไว้เพื่อให้คุณสามารถกลับเข้าไปในรถได้หากจำเป็น
   5. ถอดสายชาร์จออกจากพอร์ตชาร์จ
2. ย้ายที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าไปข้างหน้าจนสุด
3. ใต้เบาะนั่งด้านหลัง ให้กดแถบด้านซ้ายและด้านขวาไปทางด้านข้าง แล้วยกเบาะรองนั่งขึ้น เบาะนั่งแยกออกจากฐานแต่ยังคงรัดด้วยสายรัดหนึ่งเส้นที่แต่ละด้าน

   

4. ถอดสายรัดและถอดเบาะรองนั่งออก วางเบาะไว้ข้าง ๆ

   

5. ที่ฝากระโปรงหน้า ให้ถอดแผ่นป้องกันใต้ฝากระโปรงออกโดยสอดเครื่องมือที่มีลักษณะแบนเล็ก ๆ ที่จะไม่ก่อความเสียหายหรือนิ้วของคุณเข้าไปใต้แผง ดึงขึ้นเพื่อคลายคลิปและวางแผ่นป้องกันใต้ฝากระโปรงไว้ข้าง ๆ

   

6. ถอดท่อลมเข้าของห้องโดยสารออก แล้ววางไว้ข้าง ๆ

   

7. ปิดระบบรถโดยไปที่ การควบคุม > ระบบความปลอดภัย > ปิดระบบ บนหน้าจอสัมผัส
8. ใช้ประแจบล็อก 10 มม. คลายน็อตที่ยึดแคลมป์ขั้วลบ (-) กับเสาขั้วลบ (-) บนแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ ปลดแคลมป์ขั้วต่อออกจากเสาขั้วลบ (-)

   

9. ถอดสายไฟฟ้าแรงต่ำออกจากเพนต์เฮาส์:
   1. ในเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง ให้ถอดที่หุ้มโฟมออก แล้ววางไว้ด้านข้าง โฟมหุ้มสายไฟแรงดันต่ำ

      

   2. ปลดและดึงคันโยกสีเทาที่ด้านข้างของขั้วต่อไฟฟ้าแรงต่ำ

      

   3. ดึงขั้วต่อขึ้นเพื่อถอดออกจากเพนต์เฮาส์

      

   คำเตือน

   พื้นที่ใต้เบาะรองนั่งมีแบตเตอรี่แรงดันไฟสูง ห้ามสัมผัสหรือวางสิ่งของบนตัวเรือนโลหะ! การทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหรือได้รับบาดเจ็บ
10. ใช้ประแจบล็อก 10 มม. ปลดที่ครอบขั้วต่อ แล้วคลายน็อตที่ยึดแคลมป์ขั้วบวก (+) เข้ากับเสาขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ ปลดแคลมป์ขั้วต่อออกจากเสาขั้วบวก (+) และปกปิดแคลมป์ขั้วต่อด้วยเศษผ้าแห้ง
    ข้อควรระวัง

    อย่าให้แคลมป์ขั้วบวก (+) สัมผัสกับส่วนประกอบที่อยู่ใกล้เคียง เช่น แท่นยึดแบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำหรือท่อระบายความร้อน A/C

    

11. ถอดท่อระบายอากาศออกจากด้านขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ

    

12. ใช้ประแจบล็อก 10 มม. คลายน็อตและปล่อยตัวยึดแบตเตอรี่จากด้านบนของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำโดยปลดตะขอ แล้วเลื่อนกลับ ระวังอย่าให้ลื่นเข้าไปในรถ

    

13. ใช้ที่จับแบตเตอรี่ ค่อย ๆ ถอดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด-กรดแรงดันไฟต่ำ ระวังอย่าสัมผัสหรือทำให้ส่วนประกอบโดยรอบเสียหาย
    คำเตือน

    เมื่อยกแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ ให้ยืนหน้ารถและใช้วิธีการยกที่เหมาะสม แบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำมีน้ำหนักประมาณ 25 ปอนด์ (12 กก.) หากไม่ปฏิบัติตามอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสได้

    

14. ตรวจสอบแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งปลั๊กสีแดงที่ด้านขั้วบวก (+) หากแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงต่ำใหม่ไม่มีปลั๊กสีแดง ให้ใช้เครื่องมือตัดแต่งขนาดเล็กเพื่อย้ายปลั๊กสีแดงจากแบตเตอรี่เก่าไปยังแบตเตอรี่ใหม่
    ข้อควรระวัง

    กำจัดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำเก่าตามกฎหมายท้องถิ่น เช่น ทิ้งที่โรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ วางแบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำให้ตั้งตรงและวางไว้บนผ้าหรือกระดาษแข็งเมื่อขนย้าย

    

การติดตั้ง:

1. ถอดฝาครอบป้องกันออกจากขั้วบวก (+) และขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำใหม่
2. เคลื่อนแบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำใหม่เข้าที่อย่างระมัดระวัง โดยระวังอย่าให้สัมผัสหรือทำให้ส่วนประกอบใกล้เคียงเสียหาย
3. ติดตั้งตัวยึดแบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำและใช้ประแจบล็อก 10 มม. เพื่อขันโบลต์ที่ยึดไว้กับแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำให้แน่น บิดโบลต์ไปที่ 6 นิวตันเมตร (4.4 ฟุต-ปอนด์)

   

4. ในที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง ให้ต่อสายเพนต์เฮาส์เข้ากับขั้วต่อ:
   1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าก้านโยกสีเทาอยู่ด้านล่าง จากนั้นติดตั้งขั้วต่อ

      

   2. ยึดขั้วต่อโดยค่อย ๆ ดึงก้านคันโยกสีเทาขึ้นด้านบนจนกระทั่งคลิกเข้าที่

      

   3. เปลี่ยนฝาครอบโฟมที่ด้านบนของสายเพนต์เฮาส์

      

   คำเตือน

   พื้นที่ใต้เบาะรองนั่งมีแบตเตอรี่แรงดันไฟสูง ห้ามสัมผัสหรือวางสิ่งของบนตัวเรือนโลหะ! การทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหรือได้รับบาดเจ็บ
5. เชื่อมต่อขั้วบวก (+) โดยวางตำแหน่งแคลมป์ขั้วต่อไว้เหนือเสาขั้วต่อ ใช้ประแจบล็อก 10 มม. บิดน็อตไปที่ 6 นิวตันเมตร (4.4 ฟุต-ปอนด์) ติดตั้งฝาครอบขั้วบวก (+)

   

6. เชื่อมต่อขั้วลบ (-) โดยวางตำแหน่งแคลมป์ขั้วไว้เหนือขั้วต่อ ใช้ประแจบล็อก 10 มม. บิดน็อตไปที่ 6 นิวตันเมตร (4.4 ฟุต-ปอนด์)

   

7. ต่อท่อระบายอากาศเข้ากับด้านขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ

   

8. ติดตั้งท่อลมเข้าของห้องโดยสารเข้าที่

   

9. เปิดประตูรถบานใดบานหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าไฟฟ้าได้รับการกู้คืนอย่างถูกต้องและหน้าจอสัมผัสเปิดขึ้น (อาจใช้เวลาหลายนาที)
10. ในเบาะนั่งด้านหลัง ให้ต่อสายรัดของเบาะนั่ง (ด้านละหนึ่งเส้น) และติดเบาะรองนั่งเข้าที่

    

11. กดเบาะรองนั่งกลับเข้าไปในฐานจนกว่าจะคลิกเข้าที่

    

12. เปลี่ยนแผ่นป้องกันใต้ฝากระโปรงโดยจัดคลิปให้เข้าที่กับช่องเปิดที่กระโปรงหน้ารถ กดลงเพื่อล็อกให้เข้าที่ คลิปจะส่งเสียงคลิกเมื่อล็อกแน่นแล้ว

    

13. ปิดฝากระโปรงหน้า หากก่อนหน้านี้มีการแสดงการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำแสดงขึ้นบนหน้าจอสัมผัส ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการแจ้งเตือนไม่ปรากฏขึ้นอีกต่อไป

การถอด:

1. เตรียมรถเพื่อการถอดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ:
   1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถยนต์เข้าเกียร์จอดอยู่
   2. ลดหน้าต่างทั้งหมดลง
   3. เปิดฝากระโปรงหน้า
   4. เปิดประตูทิ้งไว้เพื่อให้คุณสามารถกลับเข้าไปในรถได้หากจำเป็น
   5. ถอดสายชาร์จออกจากพอร์ตชาร์จ
2. ถอดแผ่นป้องกันใต้ฝากระโปรงโดยใช้เครื่องมือที่มีลักษณะแบนเล็ก ๆ ที่ไม่เป็นรอย หรือนิ้วของคุณใต้แผงหน้าปัด ดึงขึ้นเพื่อคลายคลิปและวางแผ่นป้องกันใต้ฝากระโปรงไว้ข้าง ๆ

   

3. ที่ฝากระโปรงหน้า ให้ถอดท่อลมเข้าของห้องโดยสารออก แล้ววางไว้ข้าง ๆ

   

4. ปิดระบบรถโดยไปที่ การควบคุม > ระบบความปลอดภัย > ปิดระบบ บนหน้าจอสัมผัส
5. ใช้ประแจบล็อก 10 มม. คลายน็อตที่ยึดแคลมป์ขั้วลบ (-) กับเสาขั้วลบ (-) บนแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ ปลดแคลมป์ขั้วต่อออกจากเสาขั้วลบ (-)

   

6. ที่ฝากระโปรงหน้า ให้ปลดห่วงนิรภัยโดยเลื่อนแถบล็อกสีแดงเข้าหาตัว กดแถบสีดำ แล้วปล่อย วางห่วงนิรภัยไว้ข้าง ๆ

   

7. ใช้ประแจบล็อก 10 มม. ปลดที่ครอบขั้วต่อ แล้วคลายน็อตที่ยึดแคลมป์ขั้วบวก (+) เข้ากับเสาขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ ปลดแคลมป์ขั้วต่อออกจากเสาขั้วบวก (+) และปกปิดแคลมป์ขั้วต่อด้วยเศษผ้าแห้ง
   ข้อควรระวัง

   อย่าให้แคลมป์ขั้วบวก (+) สัมผัสกับส่วนประกอบที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ตัวยึดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำหรือท่อระบายความร้อน A/C

   

8. ถอดปลั๊กท่อระบายอากาศออกจากด้านขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่แรงดันไฟต่ำ

   

9. ใช้ประแจบล็อก 10 มม. คลายน็อตและปล่อยตัวยึดแบตเตอรี่จากด้านบนของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำโดยปลดตะขอ แล้วเลื่อนกลับ หากจำเป็น ให้เอียงตัวยึดแบตเตอรี่ไปทางด้านหลังเพื่อไม่ให้ลื่นไถลเข้าไปในรถ

   

10. ถอดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำออกอย่างระมัดระวัง ระวังอย่าให้ส่วนประกอบโดยรอบเสียหาย
    คำเตือน

    เวลายกแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ให้ยืนหน้ารถและใช้วิธีการยกที่เหมาะสม แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดมีน้ำหนักประมาณ 25 ปอนด์ (12 กก.) หากไม่ปฏิบัติตามอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสได้

    

11. ตรวจสอบแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำใหม่เพื่อให้แน่ใจว่ามีปลั๊กสีแดงที่ด้านขั้วบวก (+) หากแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดใหม่ไม่มีปลั๊กสีแดง ให้ย้ายปลั๊กสีแดงจากแบตเตอรี่เก่าไปยังแบตเตอรี่ใหม่
    ข้อควรระวัง

    กำจัดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำเก่าตามกฎหมายท้องถิ่น เช่น ทิ้งที่โรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ วางแบตเตอรี่ให้ตั้งตรงและวางบนผ้าเช็ดตัวหรือกระดาษแข็งเมื่อขนย้าย

    

การติดตั้ง:

1. ถอดฝาครอบป้องกันออกจากขั้วบวก (+) และขั้วลบ (-) บนแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำตัวใหม่
2. ใส่แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดใหม่อย่างระมัดระวังในรถ ระวังอย่าให้ส่วนประกอบใกล้เคียงเสียหาย
3. ติดตั้งตัวยึดแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำและใช้ประแจบล็อก 10 มม. เพื่อขันน็อตที่ยึดไว้กับแบตเตอรี่ให้แน่น บิดน็อตไปที่ 6 นิวตันเมตร (4.4 ฟุต-ปอนด์)

   

4. เชื่อมต่อห่วงนิรภัยอีกครั้ง

   

5. เชื่อมต่อขั้วบวก (+) อีกครั้งโดยวางตำแหน่งแคลมป์ขั้วต่อไว้เหนือเสาขั้วต่อ ใช้ประแจบล็อก 10 มม. บิดน็อตไปที่ 6 นิวตันเมตร (4.4 ฟุต-ปอนด์) ติดตั้งฝาครอบขั้วต่อขั้วบวก (+) กลับเข้าที่

   

6. เชื่อมต่อขั้วลบ (-) อีกครั้งโดยวางตำแหน่งแคลมป์ขั้วเหนือขั้วต่อ ใช้ประแจบล็อก 10 มม. บิดน็อตไปที่ 6 นิวตันเมตร (4.4 ฟุต-ปอนด์)

   

7. ต่อท่อระบายอากาศเข้ากับด้านขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำ

   

8. เปิดประตูรถบานใดบานหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าไฟฟ้าได้รับการกู้คืนอย่างถูกต้องและหน้าจอสัมผัสเปิดขึ้น (อาจใช้เวลาหลายนาที)
9. ติดตั้งท่อลมเข้าของห้องโดยสารอีกครั้ง

   

10. เปลี่ยนแผ่นป้องกันใต้ฝากระโปรงโดยจัดคลิปให้เข้าที่กับช่องเปิดที่กระโปรงหน้ารถ กดลงเพื่อล็อกให้เข้าที่ คลิปจะส่งเสียงคลิกเมื่อล็อกแน่นแล้ว

    

11. ปิดฝากระโปรงหน้า หากก่อนหน้านี้มีการแสดงการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดแรงดันไฟต่ำแสดงขึ้นบนหน้าจอสัมผัส ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการแจ้งเตือนไม่ปรากฏขึ้นอีกต่อไป